ข่าวสาร (ความรู้)

เคล็ดลับการเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร

เคล็ดลับการเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร (Tips for choosing the film.) ปัจุบันผู้บริโภคมีความตระหนักถึงความจำเป็นในการ ติดตั้งฟิล์มกรองแสงอาคาร สำนักงาน และที่พักอาศัย มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันตัวอาคารได้ออกแบบให้มีกระจกเยอะ เพื่อเปิดรับแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาภายในอาคาร ทำให้ความร้อนที่มากับแสงแดดสร้างปัญหาให้แก่ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ปฏิบัติงาน ฟิล์มกรองแสงติดอาคาร จึงเป็นทางเลือกที่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งมีข้อแนะนำในการเลือก ฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร ฟิล์มติดกระจกบ้าน ดังนี้ 1. เลือก % แสงส่องผ่าน ควรเลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งาน 1.1 ร้านค้า ที่ต้องการโชว์ สินค้าภายในร้าน หรือ ร้านกาแฟ ที่ต้องการโชว์บรรยากาศภายใน ควรเลือก ฟิล์มกรองแสงอาคาร ทีมี % แสงส่องผ่าน ตั้งแต่ 45% ขึ้นไป1.2 บ้าน หรือ สำนักงาน ที่ต้องการลดความร้อนจากแสงแดด แต่ไม่อยากให้ภายในห้องดูมืด หรือ ทึบจนเกินไป ควรเลือก ฟิล์มกรองแสงอาคาร ฟิล์มกระจกบ้าน ทีมี % แสงส่องผ่าน ประมาณ 15-40%1.3 อาคาร หรือ …

เคล็ดลับการเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร Read More »

ประโยชน์ของฟิล์มกรองแสง

ประโยชน์ของฟิล์มกรองแสง (The benefits of window film) 1. ลดความร้อน ฟิล์มกรองแสง ทำหน้าที่ลดความร้อนก่อนที่จะเข้ามาภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การอยู่อาศัย หรือปฏิบัติงานภายในอาคาร สะดวกสบายขึ้น 2. ลดเเสงจ้า ฟิล์มกรองแสงสามารถลดเเสงจ้าที่เข้ามาภายในอาคาร ซึ่งทำให้เกิดอาการเคืองตา ส่งผลกระทบต่อการทำงานได้ เมื่อติดตั้งฟิล์มกรองแสงแล้ว ทำให้การปฏิบัติงานได้สบายขึ้น และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสบายตา แม้ในเวลากลางวัน 3. รักษาวัสดุตกแต่งภายในบ้าน หรือสำนักงาน ด้วยความสามารถป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลต (UV) ฟิล์มกรองแสงจึงช่วยป้องกันของมีค่าภายในบ้าน หรือสำนักงาน ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น 4. ประหยัดพลังงาน ฟิล์มกรองแสง สามรถสะท้อนความร้อนเเละรักษาอุณภูมิภายในอาคารให้เย็นสบาย ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง 5. รักษาความเป็นส่วนตัว ฟิล์มกรองแสง สามารถป้องกันความเป็นส่วนตัวของคุณได้ 6. ฟิล์มกรองแสงสามารถยึดกระจกไว้ไม่ให้แตกกระจาย เมื่อเกิดอุบัติเหตุกระจกแตกขึ้น

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ คลื่นความร้อนจากแสงอาทิตย์

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคลื่น ความร้อนจากแสงอาทิตย์ จากรูปภาพแสดงสัญลักษณ์ขององค์ประกอบของคลื่นความร้อนที่มากับแสงแดดจากดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมายังพื้นโลก สามารถแยกออกได้ 3 ส่วน ซึ่งมีทั้งมองเห็นด้วยตาเปล่า และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แสงสว่าง (Visible light) มีความยาวของคลื่นแสงอยู่ในช่วง 370-780 นาโนเมตร ก็คือแสงสว่างของแสงแดดโดยทั่วไปที่เราสามารถมองได้ โดยคิดเป็น 44% ของแสงแดดจากดวงอาทิตย์ รังสีอินฟราเรด (Infrared rays) หรือรังสีความร้อน มีความยาวของคลื่นแสง 780 นาโนเมตร ขึ้นไป ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น กลุ่มนี้เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดความร้อน และทำให้วัตถุสีซีดจาก และแตกกรอบได้ โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 53% ของแสงแดดจากดวงอาทิตย์ รังสีอุลตราไวโอเล็ต (Ultraviolet rays) หรือ UV มีความยาวของคลื่นแสง สั้นกว่า 370 นาโนเมตร ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น กลุ่มนี้เป็นตัวการสำคัญทำให้ วัตถุสีซีดจาง แห้งกรอบ และเป็นอันตรายต่อผิวหนัง โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 3% ของแสงแดดจากดวงอาทิตย์  

Scroll to Top